ศูนย์วัฒนธรรมสถานทูตอิหร่าน
ดาราบและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของที่นี่

ดาราบและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของที่นี่

ดาราบและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของที่นี่

ดาราบตั้งอยู่ทางตะวันออกของแคว้นฟาร์ส ด้วยกับความเก่าแก่ เมืองนี้จึงมีโบราณสถานที่น่าทึ่งมากมาย นอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเมืองนี้ก็ยังสวยงามและน่าชมเป็นอย่างยิ่ง

ดาราบตั้งอยู่ทางตะวันออกของแคว้นฟาร์ส และอยู่ห่างจากเมืองชีราซประมาณ 245 กิโลเมตร เศรษฐกิจของเมืองนี้ขึ้นอยู่กับการเกษตร ผลผลิตหลักคือพืชตระกูลส้ม โดยเฉพาะส้มเขียวหวาน เมืองโบราณดาราบเกิร์ดตั้งอยู่ใกล้กับที่ตั้งปัจจุบันของเมืองนี้ ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่าดาราบมีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงยุคโบราณ

สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองดาราบ
โบราณสถานในยุคก่อนอิสลาม

ภาพแกะสลักของชาห์พูร์และเมืองโบราณดาราบเกิร์ด เป็นโบราณสถานสำคัญที่สุดของเมืองนี้ในยุคก่อนอิสลาม นอกจากนี้ยังมีวิหารไฟอาเซอร์คช์ ซึ่งในสามยุคของศาสนา ได้แก่ ลัทธิบูชามิธรา ศาสนาโซโรอัสเตอร์ และศาสนาอิสลาม ได้ถูกใช้เป็นสถานที่สักการะของผู้ศรัทธาในแต่ละยุค วิหารแห่งนี้ถูกเจาะขึ้นภายในภูเขาอย่างประณีต

ใกล้กับวิหารนี้ ยังมีโรงสีหินโบราณแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยแท่งหินทรงกระบอกขนาดใหญ่สองแท่ง โรงสีนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา และขับเคลื่อนด้วยพลังน้ำ

ตามความเห็นของนักโบราณคดี สถาปัตยกรรมของโรงสีหินนี้มีต้นกำเนิดในยุคซาซานิยะห์ (ปี ค.ศ. 224 ถึง 651)
ทางตะวันตกของโรงสี มีจารึกหนึ่งเขียนด้วยอักษรกูฟีย์ ซึ่งบ่งบอกว่ามีการบูรณะในยุคอาตาบัก (ระหว่างปี ค.ศ. 1174 ถึง 1597) ซึ่งเป็นช่วงที่อาตาบักปกครองบางส่วนของทางตะวันตกและใต้ของอิหร่านในปัจจุบัน

โรงสีนี้ได้รับการซ่อมแซมอีกครั้งในสมัยราชวงศ์กาจาร์ (ศตวรรษที่ 19) และมีการใช้งานในยุคของกษัตริย์นาศิรุดดีนชาห์ (ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 1848 ถึง 1896)

วิหารไฟอาเซอร์โจ

วิหารไฟอาเซอร์โจเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ของเมืองดาราบฆัรบ์ ซึ่งตามตำนานที่เล่าขานกันมา สร้างขึ้นตามคำสั่งของศาสดาโซโรอัสเตอร์เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ด้วยเหตุนี้ การก่อตั้งวิหารไฟแห่งนี้จึงมีขึ้นก่อนการสร้างเมืองดาราบฆัรบ์  ซึ่งดูเหมือนว่า หนึ่งในเหตุผลหลักของการสร้างดาราบฆัรบ์ ก็คือเพื่อปกป้องวิหารไฟแห่งนี้ รวมถึงเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกจุดไว้ภายใน

โบราณสถานในยุคอิสลาม
หนึ่งในโบราณสถานสำคัญของเมืองดาราบในยุคอิสลาม คือ มัสยิดมัสยิดกลางของเมือง  ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็น มัสยิดสี่หอคอยเพียงแห่งเดียวในโลก มัสยิดแห่งนี้ได้รับการบูรณะหลายครั้งหลังจากการก่อสร้าง แต่ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของมัสยิดมีอายุ กว่า 700 ปี

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของดาราบ
หนึ่งในหมู่บ้านที่มีเสน่ห์ที่สุดในบริเวณรอบเมืองดาราบ คือ หมู่บ้านลาอีซังกาน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองดาราบประมาณ 75 กิโลเมตร หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับฉายาว่าเป็น ดินแดนแห่งดอกกุหลาบมุฮัมมะดี และถือเป็นหนึ่งในเมืองที่ผลิตดอกกุหลาบมุฮัมมะดีรายใหญ่ของแคว้นฟาร์สและของประเทศอิหร่าน

เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขา หมู่บ้านนี้จึงถูกสร้างแบบ ขั้นบันได มีน้ำพุธรรมชาติใสสะอาด รวมถึง ถ้ำที่น่าชมหลายแห่ง ได้แก่

  • ถ้ำลาอีซะเนห์
  • ถ้ำมะอ์เดนกาห์
  • ถ้ำบาเกร์
  • ถ้ำพีรโน
  • ถ้ำพีรเช็คอาลี

ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในหมู่บ้านแห่งนี้

น้ำพุกุลลอบีย์ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองดาราบประมาณ 17 กิโลเมตร และถือเป็นหนึ่งใน น้ำพุธรรมชาติที่มีน้ำมากที่สุดแห่งหนึ่งของอิหร่าน น้ำพุแห่งนี้มี น้ำจืดไหลออกถึงสามทาง แม้ว่าในบริเวณโดยรอบจะมี แหล่งเกลือจำนวนมาก แต่น้ำของน้ำพุนี้กลับ ใสและมีรสจืด ซึ่งทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว  สาเหตุที่น้ำพุนี้ถูกตั้งชื่อว่า “กุลลอบีย์ ” ซึ่งแปลว่าลูกแพร์ เนื่องมาจาก รูปร่างของมันคล้ายผลแพร์นั่นเอง

หากจะจัดทำรายชื่อแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดของแคว้นฟาร์ส แน่นอนว่า "หุบเขารักซ์" ในเมืองดาราบจะต้องติดอันดับอย่างไม่ต้องสงสัย


หุบเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตฟาซารูด  ห่างจากเมืองดาราบไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโลเมตร ใกล้กับหมู่บ้านรักซ์ และเป็นแหล่งธรรมชาติที่มีทั้ง น้ำตกและแอ่งน้ำที่สวยงามและไม่เหมือนที่ใด

น้ำที่ไหลผ่านหุบเขารักซ์ผุดขึ้นจากใจกลางป่า ไหลผ่านระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรภายในหุบเขา ตลอดเส้นทางนี้ น้ำได้สร้าง น้ำตกถึง 64 แห่ง และ แอ่งน้ำธรรมชาติใกล้ 100 แห่ง โดยแต่ละแอ่งมีความลึกระหว่าง 6 ถึง 20 เมตร

ในจำนวนนี้ มีเพียง 14 น้ำตกและแอ่งน้ำในหุบเขาด้านใต้ เท่านั้นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและนักปีนเขา ส่วนที่เหลือ โดยเฉพาะ น้ำตกสุดท้ายซึ่งสูงถึง 35 เมตร และเป็นจุดกำเนิดของน้ำพุ ก็ยังคงอยู่ในสภาพธรรมชาติบริสุทธิ์

น้ำตกที่สูงที่สุดในหุบเขาแห่งนี้มีความสูงถึง 65 เมตร

อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของดาราบ คือ หุบเขาแช็กแช็ก ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเซอร์ตันด์ ทางตอนใต้ของเขตรัสต๊าค
หุบเขาแห่งนี้มีความยาวถึง 20 กิโลเมตร และตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญบางราย เส้นทางสื่อสารที่เก่าแก่ที่สุดระหว่างเมืองดาราบและเมืองท่าบันดาร์อับบาสเคยพาดผ่านบริเวณนี้

ภายในหุบเขานี้มี แหล่งโบราณสถาน ประกอบด้วย อาคารโบราณที่มีหลังคาโค้งสี่ทิศ หนึ่งในนั้นมีหลังคาโดมและเป็นที่รู้จักในชื่อว่า “พระราชวังกระจก”
อาคารนี้มี ทางเข้าเพียงด้านทิศตะวันออก และภายในมีช่องเก็บของตามผนัง (ชั้นเล็กๆ) จำนวนมาก ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าอาคารนี้ อาจเคยใช้เป็นสถานที่ทางศาสนา

ในภูเขาด้านเหนือของหุบเขาแช็กแช็ก ยังมองห็นหอเฝ้าระวังเก่าแก่ที่สร้างขึ้นจากหินและปูน ส่วนทางทิศตะวันออกของหุบเขา มีน้ำพุเล็กๆ ที่น้ำหยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “แช็กแช็ก” (เสียงหยดน้ำ)

เขตฟูรก์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเมืองดาราบ ก็มีแหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจเช่นกัน ได้แก่

  • น้ำตกฟะดามี
  • เนินเนินเขาดำ
  • หุบเขาที่รู้จักกันในชื่อ “หุบเขาตู้ปลา” ซึ่งมีธรรมชาติอันงดงาม
ดาราบและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของที่นี่
ฟาร์ส
ดาราบ
,Natural
RegistrationNo registration

องค์กรวัฒนธรรมและการสื่อสารอิสลามเป็นหนึ่งในองค์กรของอิหร่านที่สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมและแนวทางอิสลาม และก่อตั้งขึ้นในปี 2538[ดูเพิ่มเติม]

:

:

:

: