อัรบาอีน : รากฐานของอารยธรรมอิสลามสมัยใหม่
อัรบาอีน : รากฐานของอารยธรรมอิสลามสมัยใหม่
โลกที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้กำลังเคลื่อนไปสู่อนาคตที่แตกต่างจากปัจจุบันด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดา ในระหว่างนี้มหาอำนาจที่หยิ่งผยองของโลกทั้งหลายก็กำลังซ่อนอยู่ในเงามืดพยายามอย่างแข็งขันเพื่อสร้างต้นแบบอารยธรรมให้กับทุกประเทศในโลกโดยมีเป้าหมายไปในทิศทางของการล่าอาณานิคมและการแสวงประโยชน์เข้าตนเอง ในทางตรงกันข้ามอิสลามกำลังนำมนุษยชาติไปสู่อารยธรรมที่สดใสและมีชีวิตชีวาด้วยโปรแกรมและต้นแบบที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตของมนุษย์ทั้งหมด
เป็นที่แน่นอนว่า ไม่มีอารยธรรมใดเกิดขึ้นในโลกนี้จะเกิดขึ้นโดยปราศจากพื้นฐานและภูมิหลังมาก่อน วัฒนธรรมเป็นรากฐานและพื้นฐานของอารยธรรม แท้จริงแล้ววัฒนธรรมถือเป็นแรงผลักดันของสังคม วัฒนธรรมนี้เองล้วนมีที่มาจากเหตุการณ์หนึ่งเล็กเหตุการณ์หนึ่งหรือเกิดจากประกายความคิดที่ถูกจุดขึ้นโดยสามารถชี้นำสังคมไปสู่จุดสูงสุดของความเจริญ จนสามารถพูดได้ว่าอารยะธรรมอันยิ่งใหญ่อาจเกิดจากเหตุการณ์และวัฒนธรรมธรรมดาที่ไม่มีคนสนใจได้
ตามคำกล่าวของผู้นำการปฏิวัติ อัรบาอีน คือหนึ่งในวัฒนธรรมเหล่านั้นที่มีความสามารถในการสร้างอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของอิสลามให้เกิดขึ้นได้ในอนาคต
อัรบาอีน ฮุซัยนีย์ เป็นพิธีกรรมตามประเพณีที่มีประวัติความเป็นมายาวนานหลายพันปี ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มีผู้แสวงบุญนับสิบล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก จากทุกศาสนาและนิกาย ได้เปลี่ยนให้อัรบาอีนเป็นวัฒนธรรมข้ามพรมแดนภูมิศาสตร์และศาสนาในที่สุด การรวมตัวกันอย่างเป็นเอกภาพและมีความสามัคคีที่สามารถมองเห็นได้ในพิธีอัรบาอีนจะกลายเป็นแบบจำลองในการสร้างอารยธรรมสำหรับมนุษยชาติในอนาคตภายใต้เงาของความสามัคคีของสังคมและประเทศชาติ ต่อไปรัฐในอุดมคติจะปรากฏขึ้น
การบรรลุถึงอารยธรรมที่สมบูรณ์ในรูปแบบของอารยธรรมอิสลามเป็นหนึ่งในหน้าที่หลักของสังคมอิสลามและมุสลิมทุกคน การรวมตัวกันโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ สีผิว และเชื้อชาติที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละคนจะมีบทบาทในการก่อตัวที่สมบูรณ์ของอารยธรรมนี้เพราะเป็นอารยธรรมอิสลามที่นำสังคมมาสู่ความสมบูรณ์แบบ นี่ไม่ใช่การอ้างโดยไร้สาระ เพราะที่ผ่านอารยธรรมตะวันตกได้แสดงให้เห็นว่ามนุษยชาติได้ผ่านอารยธรรมและความก้าวหน้าของโลกตะวันตกมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่างเปล่าและไร้ทิศทางอยู่เหมือนเดิม ในทางตรงกันข้ามเชื้อชาติและสีผิวก็ยังเป็นคุณค่าหลักอยู่ในชาติตะวันตกเหมือนเดิม ตรงกันข้ามกับศาสนาของอิสลามที่เป็นศาสนาแห่งอัตลักษณ์และได้รวบรวมผู้คนทั้งหมดไว้ใต้ร่มธงเอกภาพและสามัคคีและอยู่ภายใต้ร่มธงของความเชื่อที่ว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์” นี้ รูปแบบของอารยธรรมอิสลามได้นำพามนุษยชาติไปสู่จุดสูงสุดแห่งความเจริญรุ่งเรือง จะกอบกู้ความเป็นมนุษย์กลับมาสู่มนุษย์อีกครั้ง
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการเฟื่องฟูของอารยธรรมอิสลามคือความสามัคคีของโลกอิสลาม โลกอิสลามจะไปถึงจุดสูงสุดของอารยธรรมต้องอาศัยความสามัคคีและความเห็นอกเห็นใจเท่านั้น คัมภีร์กุรอ่านได้เรียกร้องให้ผู้คนมีความสามัคคีและเรียกร้องให้เชื่อฟังผู้ปกครองจากพระเจ้า ภายใต้ร่มธงนี้เท่านั้นที่จะทำให้ผู้คนไม่แตกแยกกัน
จากการพิจารณาฐานทางประวัติศาสตร์สามารถกล่าวได้ว่าปัจจัยหลักในการสร้างอารยธรรมอิสลามให้เกิดขึ้นคือ ความสามัคคี ในปัจจุบันพิธีอัรบาอีนมีบทบาทสำคัญในการรวมผู้คนที่มีเชื้อชาติ สัญชาติและศาสนาที่แตกต่างกันมารวมตัวอยู่ด้วยกัน และอัรบาอีนกลายเป็นรูปแบบใหม่ของการรวมตัวกันที่มีความสำคัญที่สุดท่ามกลางปรากฏการณ์การรวมตัวกันของบรรดามุสลิมที่เกิดขึ้นในโลก
อีกลักษณะหนึ่งในการสร้างอารยธรรมอิสลามใหม่คือจิตวิญญาณของความร่วมมือและการช่วยเหลือเกื้อกูลกันซึ่งเราเห็นอย่างมากมายในการเดินในพิธีอัรบาอีนซึ่งมันจะสามารถกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการบูรณาการของประชาชนไปสู่การสร้างอารยธรรมอิสลามที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต