
มารันด์ เมืองที่มีอายุกว่าเจ็ดพันปี
เมืองมารันด์ เป็นหนึ่งในเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นอาเซอร์ไบจานตะวันออก โดยมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับสามของจังหวัด เมืองมารันด์เป็นศูนย์กลางของเมืองนี้ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองตับรีซไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 65 กิโลเมตร และถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดในแง่ของประวัติศาสตร์
ประวัติเมืองมารันด์
เมืองมารันด์มีความสำคัญทางภูมิศาสตร์เนื่องจากตั้งอยู่บนเส้นทางเชื่อมระหว่างอิหร่านและยุโรป จนได้รับสมญาว่า “ประตูอิหร่านสู่ยุโรป” ความสำคัญของเมืองนี้มีมากถึงขั้นที่นักประวัติศาสตร์ชื่อดังอย่าง ปโตเลมี เฮโรโดตัส และเซโนฟอน ได้กล่าวถึง โดยในบันทึกของพวกเขา เมืองมารันด์ถูกเรียกว่า “มันดาการ์นา” หรือ “มันดาการ์” ปโตเลมี (ราวปี ค.ศ. 100–170) ยังกล่าวถึงมารันด์ว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย
แม้จะมีการกล่าวถึงในบันทึกของนักประวัติศาสตร์ชื่อดัง แต่หลักฐานจากจารึกของอาณาจักรโอราร์ทูอีย์แสดงให้เห็นว่าเมืองมารันด์มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่านั้นมาก โดยมารันด์เป็นเมืองที่มีความเจริญมาแล้วตั้งแต่พันปีก่อนคริสตกาลที่สาม และจากการค้นพบโบราณวัตถุในเนินโบราณ "เกอร์เกอร์" ซึ่งย้อนไปถึงพันปีก่อนคริสตกาลที่ห้า ทำให้สามารถกล่าวได้ว่าเมืองนี้มีอายุถึงประมาณ 7,000 ปี ต่อมาในยุคของอาณาจักรมาด (678–549 ปีก่อนคริสตกาล) เมืองมารันด์ยังคงรักษาความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
ตามรายงานที่มีรากฐานจากคัมภีร์โทราห์ มีการกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ศาสดานูห์จะถูกฝังอยู่ในเมืองมารันด์ ชาวอาร์เมเนียบางส่วนเชื่อว่าเรือของศาสดานูห์ได้จอดลงที่นครนัคญะวอน และท่านถูกฝังที่นั่น ขณะที่ภรรยาของท่านถูกฝังที่เมืองมารันด์
มารันด์หลังการเข้ามาของอิสลาม
ระหว่างปีฮิจเราะห์ที่ 18 ถึง 22 (ค.ศ. 639–641) มุสลิมได้เข้ายึดครองแคว้นอาเซอร์ไบจาน อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงเมืองมารันด์ในบริบทของอิสลามปรากฏขึ้นครั้งแรกในปีฮิจเราะห์ที่ 160 (ค.ศ. 776) นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าในช่วงเวลานั้น มารันด์เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ไม่มีความสำคัญพอจะถูกบันทึกไว้ในตำราทางประวัติศาสตร์ ตามทฤษฎีนี้ เมืองมารันด์ค่อย ๆ ฟื้นตัวและขยายตัวหลังจากอิสลามเข้าสู่อิหร่าน จนสามารถกลับมารุ่งเรืองดังเดิมอีกครั้ง
เมื่อบาบัก เคอร์รอมดีน (เสียชีวิตในเดือนมกราคม ค.ศ. 838 / เดือนศอฟัร ปีฮิจเราะห์ 223) ลุกขึ้นต่อต้านการปกครองของราชวงศ์อับบาซียะฮ์ เขาได้ครอบครองเมืองมารันด์ ในช่วงเวลานั้นมีราชวงศ์ท้องถิ่นหลายราชวงศ์ที่ปกครองพื้นที่นี้ด้วย ในศตวรรษต่อ ๆ มา เมืองมารันด์ยังคงความเจริญรุ่งเรือง และนักเดินทางที่มาเยือนเมืองนี้ได้บันทึกถึงความเขียวขจีและสวนผลไม้ของเมือง
ในปี ค.ศ. 1205 (ปีฮิจเราะห์ 602) ชาวอาร์มีเนียบุกโจมตีเมืองมารันด์และทำลายเมืองลง แต่หลังจากที่สุลต่านญะลาลุดดีน โคร์ซัมชาห์ (ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 1220 ถึง 1231) เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองนี้ เมืองก็กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ความสำคัญของเมืองมารันด์ทำให้ในช่วงเวลาต่อมากลายเป็นจุดขัดแย้งระหว่างหลายกลุ่ม
ในช่วงหลายศตวรรษถัดมา เมืองมารันด์ต้องเผชิญกับการปล้นสะดมและสงครามหลายครั้ง แต่ในที่สุดเมื่อถึงศตวรรษที่ 19 ความสงบก็กลับคืนมา และเมืองมารันด์ก็สามารถฟื้นคืนสถานะของตนในฐานะหนึ่งในเมืองสำคัญที่สุดของภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่านได้อีกครั้ง
อุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของเมืองมารันด์
ในอิหร่าน เมืองมารันด์ถูกยกย่องให้เป็นผู้ผลิตถั่วและผลไม้แห้งรายใหญ่ที่สุด เมืองนี้ยังคงตั้งอยู่ในเส้นทางการคมนาคมสำคัญของอิหร่าน และเนื่องจากการสัจจรของรถเทรลเลอร์ จึงทำให้เมืองนี้ได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งเทรลเลอร์" เศรษฐกิจของเมืองส่วนใหญ่พึ่งพาการเกษตรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม ผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญของเมืองมารันด์ได้แก่ ถั่ว ผักสด และผลไม้ เช่น องุ่นและลูกพีช
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมารันด์
เมืองมารันด์ มีแหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่หลากหลายและมีความสำคัญมาก มัสยิดญาเมียะอ์มารันด์ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองปัจจุบัน ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมือง มัสยิดนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1330 (ปีฮิจเราะห์ 731) บ้านพักคนเดินทางมารันด์ก็ถูกสร้างขึ้นในปีเดียวกันและถือเป็นหนึ่งในมรดกสำคัญของเมือง อีกมัสยิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้คือ "มัสยิดบาซาร์" ซึ่งบางคนเชื่อว่าเป็นที่ฝังร่างของภรรยาหรือมารดาของนบีนูห์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเมือง
เมืองมารันด์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามมากมาย ซึ่งทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินทางท่ามกลางธรรมชาติ "มูกาน ยอร์ดู" เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ ชื่อของสถานที่นี้หมายถึง "ที่พักอันสงบของนักคิด" และอีกทางหนึ่งมันก็สะท้อนถึงความเงียบสงบและความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีที่เปรียบของสถานที่แห่งนี้ ในบรรดาเมืองต่าง ๆ ของจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันออก เมืองมารันด์ถือเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและมีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยของมัน
มารันด์ เมืองที่มีอายุกว่าเจ็ดพันปี | |
อาเซอร์ไบจานตะวันออก | |
มารันด์ | |
,Natural | |
Registration | No registration |









