มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอิสฟาฮาน มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในอิหร่าน

ด้วยภูมิหลังทางวัฒนธรรม เมืองอิสฟาฮานจึงถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอิหร่าน มีศูนย์มหาวิทยาลัยหลายแห่งที่เปิดดำเนินการในอิสฟาฮาน โดยหนึ่งในนั้น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอิสฟาฮานมีชื่อเสียงในหมู่มหาวิทยาลัยของประเทศเนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่กว้างขวางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นเอกลักษณ์

ประวัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอิสฟาฮาน

ในปี 1970 มีการเสนอแผนการสร้างวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชารีฟในอิสฟาฮาน สำหรับการก่อสร้างวิทยาเขตนี้ ได้พิจารณาใช้พื้นที่ 1,600 เฮกตาร์ พื้นที่ขนาดใหญ่เช่นนี้ทำให้ทางมหาวิทยาลัยสามารถจัดเตรียมศูนย์วิจัยและอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่การศึกษาของมหาวิทยาลัยได้ กระบวนการจัดสรรที่ดินของมหาวิทยาลัยใช้เวลาหลายปี และในที่สุดในปี 1974 กิจกรรมการก่อสร้างของมหาวิทยาลัยก็เริ่มขึ้น

ปี 1977 เป็นจุดเริ่มของกิจกรรมการศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอิสฟาฮาน ในเวลาเดียวกัน แผนการพัฒนามหาวิทยาลัยก็ได้รับการปฏิบัติเช่นกัน โดยแผนนี้ได้รับการจัดเตรียมไว้สำหรับพื้นที่ 2,300 เฮกตาร์ ด้วยเหตุนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอิสฟาฮานจึงกลายเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในอิหร่านในแง่ของขนาด

สถานะด้านการศึกษาและการวิจัยของมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮาน

ปัจจุบันมีการสอน 201 สาขาวิชาในรูปแบบของ 15 คณะที่มหาวิทยาลัยนี้  27 สาขาวิชาในระดับปริญญาตรี  106 สาขาวิชาในระดับปริญญาโท และ 68 สาขาวิชาในระดับปริญญาเอก

ในบรรดาคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮาน คณะวิศวกรรมศาสตร์โกลพัยกานตั้งอยู่ในเมืองโกลพัยกานและนอกมหาวิทยาลัยหลัก ในคณะนี้มี5กลุ่ม ได้แก่ วิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมอุตสาหการ  วิศวกรรมวัสดุ วิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ และวิทยาศาสตร์พื้นฐาน

ที่มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮานมีสถาบันวิจัย7แห่งที่ทำงานอยู่

- เหล็ก

- อิเล็กทรอนิกส์การบิน

- น้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย

- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใต้ทะเล

- นาโนเทคโนโลยีและวัสดุขั้นสูง

- เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

- ชีววิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวภาพ

การตั้งอยู่ของเมืองวิทยาศาสตร์และการวิจัยอิสฟาฮานใกล้กับมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮานถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของมหาวิทยาลัยนี้ เมืองวิทยาศาสตร์และการวิจัยนี้ประสบความสำเร็จในด้านการพัฒนา การผลิต และการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ความรู้ รวมถึงการจ้างงานสำหรับบัณฑิตจากมหาวิทยาลัย ในเมืองนี้มีสถานที่สำหรับการตั้งหน่วยวิจัยใหม่และการค้า รวมถึงศูนย์วิจัยที่เกี่ยวข้องกับองค์กรและอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีการเตรียมพื้นที่อยู่อาศัยในสวนนี้เพื่อให้ผู้วิจัยและผู้เชี่ยวชาญได้ประโยชน์จากสวนแห่งนี้ได้

มหาวิทยาลัยนี้มีการเผยแพร่เอกสารวิชาการ 10 ฉบับในภาษาเปอร์เซียและสามฉบับในภาษาอังกฤษ ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังมีศูนย์วิทยาศาสตร์อีก 5 แห่ง ได้แก่

• เซนเซอร์และเคมีสีเขียว  การสร้างเซนเซอร์ก๊าซและเคมี รวมถึงสารที่กำจัดตัวละลายจากปฏิกิริยาเคมีเป็นพันธกิจหลักของศูนย์นี้ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในปี 2000 ที่มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮาน
• เทคโนโลยีชีวภาพ  จังหวัดอิสฟาฮานถือเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่สำคัญที่สุดในอิหร่าน ดังนั้นศูนย์นี้จึงถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2002 เพื่อปกป้องต้นไม้และสนับสนุนการเกษตรในจังหวัด
• เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเหล็ก:  ด้วยการมีอยู่ของอุตสาหกรรมเหล็กขนาดใหญ่ในอิสฟาฮาน มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮานได้เริ่มดำเนินการศูนย์นี้ตั้งแต่ปี 2001 เพื่อค้นหาเทคโนโลยีการผลิตเหล็กใหม่ๆ ที่ทันสมัย.
• การจัดการความเสี่ยงและวิกฤตทางธรรมชาติ:  อิหร่านเป็นประเทศที่เผชิญกับภัยพิบัติธรรมชาติต่างๆ ดังนั้นตั้งแต่ปี 2018 ศูนย์วิจัยด้านการจัดการความเสี่ยงและวิกฤตธรรมทางชาติได้ถูกก่อตั้งขึ้นที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เพื่อศึกษาหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการป้องกันความเสียหายจากวิกฤตเหล่านี้.
• ชีววิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวภาพ:  ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และมีเป้าหมายเพื่อจัดเตรียมศักยภาพที่จำเป็นในการสร้าง ถ่ายทอด และพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพ.

สถานะระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮาน

มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮานถือเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่สำคัญและโดดเด่นที่สุดในหมู่มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมของอิหร่านเสมอมา ข้อเท็จจริงนี้ยังสามารถเห็นได้ในอันดับโลกด้วย มหาวิทยาลัยนี้อยู่ในอันดับ 401 ถึง 500 ในสาขาชีววิทยาศาสตร์ การเกษตร และฟิสิกส์ตามการจัดอันดับของเซี่ยงไฮ้ที่เผยแพร่ในปี 2023 ในสาขาวิศวกรรมเคมีและวิศวกรรมเครื่องกลอยู่ในอันดับ 301 ถึง 400 ในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเครื่องมืออยู่ในอันดับ 76 ถึง 100 (อันดับแรกของอิหร่าน) ในสาขา "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร" และ "วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมพลังงาน" อยู่ในอันดับ 201 ถึง 300 ในสาขาวิศวกรรมเหมืองแร่ในอันดับ 51 ถึง 75 และในสาขาวิศวกรรมโลหะอยู่ในอันดับ 151 ถึง 200.

เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับมหาวิทยาลัยทั่วโลกและให้บริการที่จำเป็นแก่บัณฑิตต่างชาติ มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมอิสฟาฮานได้จัดตั้งศูนย์ที่เรียกว่า "สำนักงานความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ" ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1990 เป้าหมายหลักของสำนักงานนี้คือการแนะนำมหาวิทยาลัยในระดับนานาชาติและทำข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ.