มหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี ศูนย์วิชาการเพื่อความเป็นเอกภาพของมวลมุสลิม

นิกายในอิสลามมีหลักการที่เหมือนกัน และความแตกต่างก็จำกัดอยู่ที่บางคำสั่งและประเด็นย่อย ดังนั้น การศึกษาศาสนาเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจทางเลือกในการเสริมสร้างและพัฒนาสังคมอิสลามได้ดีขึ้น
มหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาระดับสูงของอิหร่าน ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์นี้ และเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ที่ขึ้นกับมัจมะอ์ตักรีบมาซอเฮ็บอิสลามี โดยตลอดระยะเวลาการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยนี้ มีความมุ่งมั่นที่จะรักษาแบบฉบับของนักวิชาการชีอะฮ์และซุนนีในการสนทนาทางวิชาการที่เกี่ยวกับศาสนา

ทำความรู้จักกับมัจมะอ์ตักรีบมาซอเฮ็บอิสลามี
มัจมะอ์ตักรีบมาซอเฮ็บอิสลามี ก่อตั้งขึ้นในปี 1990 เพื่อส่งเสริมการไกล่เกลี่ยระหว่างนิกายอิสลามและสร้างความเข้าใจร่วม มัจมะอ์ตักรีบมาซอเฮ็บอิสลามีนี้พยายามสร้างความเข้าใจระหว่างฟิกฮ์อิสลามที่มีระบบการตีความที่มั่นคง จริงๆ แล้ว นิกายอิสลามทั้งหมดมีลักษณะร่วมและสามารถสร้างเอกภาพร่วมกันได้จากความเชื่อในคัมภีร์กุรอานและซุนนะห์ และความเชื่อในหลักการสำคัญต่างๆ เช่น ความเชื่อในเอกภาพของพระเจ้า การเป็นศาสนทูต และวันฟื้นคืนชีพ

มัจมะอ์ตักรีบมาซอเฮ็บอิสลามีนี้จัดการประชุมประจำปีในช่วงวันที่ 12 ถึง 17 ของเดือนรอบีอุลเอาวัล (ตามปฏิทินอิสลาม) ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญและบุคคลสำคัญจากหลายประเทศเข้าร่วม เพื่อเปิดโอกาสสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การประชุมในวันที่ 12 รอบีอุลเอาวัลตามทัศนะของพี่น้องซุนนีและวันที่ 17 รอบีอุลเอาวัลตามทัศนะของชาวชีอะฮ์ถือเป็นถือกำเนิดของศาสดามูฮัมหมัด และช่วงเวลานี้ถูกเรียกว่า "สัปดาห์เอกภาพ"

ประวัติและหน่วยงานของมหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี
มหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี ถูกก่อตั้งในปี 1991 โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการสอนวิชาฟิกฮ์ของนิกายในอิสลามและกฎหมายในลักษณะเปรียบเทียบและเทียบเคียง ขณะนี้มหาวิทยาลัยหลักตั้งอยู่ในกรุงเตหะราน และมีสาขาในเมืองต่างๆ ได้แก่ ซาเฮดาน ซานันดัจ  บันดาร์อับบาส และกอนด์กาวูซ

การก่อตั้งสาขาในกอนด์กาวูซเกิดขึ้นในปี 2009 และการก่อตั้งสาขาในบันดาร์อับบาสในปี 2012 ที่สาขาบันดาร์อับบาส มีการสอนวิชาในระดับปริญญาตรี เช่น ฟิกฮ์อิมามียะห์  ฟิกฮ์ชาฟีอี และวิชาศาสนาและปรัชญาอิสลาม ในขณะที่สาขานี้มีการเปิดสอนวิชาในระดับปริญญาโท เช่น ฟิกฮ์และกฎหมายอิสลามแบบเปรียบเทียบ

สาขามหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี ในซานันดัจเปิดในปี 2010 และเริ่มรับนักศึกษาตั้งแต่ปี 2011 โดยมีการเปิดสอนในระดับปริญญาตรีในสาขาฟิกฮ์ชาฟีอี  ฟิกฮ์อิมามียะห์ และวิชาการกุรอานและฮาดิษ ขณะที่ในระดับปริญญาโท เปิดสอนในสาขาประวัติศาสตร์อิสลาม

สาขาซาเฮดานเปิดในปี 2011  เปิดสอนในสาขาฟิกฮ์อิมามียะห์ และฟิกฮ์ฮานาฟีย์ในระดับปริญญาตรีเนื่องจากความสำคัญของมหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี ประธานาธิบดีหรือตัวแทนของประธานาธิบดีก็เป็นสมาชิกในคณะกรรมการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยนี้ รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ การศึกษา และวัฒนธรรมก็มีบทบาทในคณะกรรมการกำกับดูแลมหาวิทยาลัยด้วย

สาขาวิชาและคณะของมหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี
มหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี มี 3 คณะ ได้แก่ คณะ "ฟิกฮ์และกฎหมายนิกายอิสลาม" คณะ "วิชาการกุรอานและฮาดิษ" และคณะ "ปรัชญา เทววิทยา และรหัสยะอิสลาม" ที่กำลังดำเนินการสอนอยู่
มหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี เป็นสถานศึกษาสำหรับนักศึกษาจากทุกนิกายในอิสลาม โดยเปิดสอนสาขาวิชากฎหมายและฟิกฮ์อิสลามในลักษณะเปรียบเทียบ ดังนั้น จึงมีนักศึกษาจากหลายประเทศในโลกอิสลามศึกษาที่นี่

วารสารวิชาการ "ฟิกฮ์มากอเร็น" ซึ่งเผยแพร่ทั้งในภาษาเปอร์เซียและอาหรับ เป็นหนึ่งในวารสารวิจัยที่สำคัญของมหาวิทยาลัยนี้ นอกจากนี้ยังมีวารสารวิชาการที่ถูกเผยแพร่ที่ชื่อว่า "ฟูรูอกุ้ล วะห์ดัต" ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การศึกษาความคล้ายคลึงของนิกายในอิสลาม และมีวารสารวิชาการเฉพาะทางเรื่อง "การศึกษาสื่อและอุมมะห์" ที่เป็นวารสารวิจัยอีกฉบับของมหาวิทยาลัย

กิจกรรมระดับนานาชาติของมหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามี

เป้าหมายที่วางไว้สำหรับมหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามีทำให้การเชื่อมโยงระหว่างศูนย์วิชาการทางศาสนาและนิกาย เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น มหาวิทยาลัยนี้จึงได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาพันธ์มหาวิทยาลัยอิสลามทั่วโลก  สมาพันธ์มหาวิทยาลัยอิหร่านและโลกอาหรับ และสมาพันธ์มหาวิทยาลัยศาสนศาสตร์ในโลกอิสลาม โดยมีการจัดหลักสูตรร่วมกัน

การจัดหลักสูตรต่างๆ สำหรับนักวิชาการจากประเทศต่างๆ และการรับนักศึกษาต่างชาติผ่านตัวแทนทางวัฒนธรรมและการทูตของสาธารณรัฐอิสลาม เป็นหนึ่งในกิจกรรมระดับนานาชาติที่มหาวิทยาลัยมาซอเฮ็บอิสลามีดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายของตน

ปัจจุบัน มีศูนย์นักศึกษาจากประเทศต่างๆ เช่น บุรกีนาฟาโซ อัฟกานิสถาน ไอวอรีโคสต์ ไนจีเรีย  อิตาลี ปากีสถาน  อียิปต์ และอิรัก ที่สำนักงานความร่วมมือทางวิชาการและระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัย เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางวิชาการระหว่างนักศึกษาชาวอิหร่านและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ศุนย์วิชาการนี้เติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง