มหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอี มหาวิทยาลัยด้านมนุษยศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในอิหร่าน

ในปี 1979 เมื่อการปฏิวัติอิสลามประสบความสำเร็จ มีการก่อตั้งศูนย์การศึกษาระดับสูงหลายแห่งในอิหร่าน ภายใต้ชื่อเช่น มหาวิทยาลัย  คณะ  ศูนย์วิจัย  สถานศึกษาระดับสูง สถาบันการศึกษาและองค์กรต่างๆ ในด้านมนุษยศาสตร์ ช่วงเวลานั้น ศูนย์การศึกษาที่เริ่มก่อตั้ง ตั้งแต่ปี 1958 ค่อยๆรวมตัวกันและกลายเป็นสองกลุ่มมหาวิทยาลัย ได้แก่ "ศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์" และ "วิทยาศาสตร์การบริหารและการค้า" ซึ่งทั้งสองกลุ่มได้รวมตัวกันในปี 1984 และกลายเป็น "มหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอี"

มหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอี จุดเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยในอิหร่าน
ก่อนที่จะมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอี มหาวิทยาลัยที่เน้นสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคนิคได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่มหาวิทยาลัยนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในระบบการศึกษาระดับสูงของอิหร่านที่สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการทำให้มหาวิทยาลัยมีความเป็นเฉพาะทางมากขึ้น
การเลือกชื่อ "อัลลามะห์ ตะบาตะบาอี" ซึ่งเป็นนักปรัชญาและนักวิชาการอิสลามและคัมภีร์อัลกุรอานของอิหร่าน หลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตไปเพียงสามปีก่อนการก่อตั้งมหาวิทยาลัย ถือเป็นการนำเสนอแบบอย่างให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอี ถือเป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางด้านวิชาการมนุษยศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในอิหร่าน

โครงสร้างและส่วนประกอบของมหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอี
มหาวิทยาลัยประกอบด้วย 10 คณะ และ 1 สถาบันการศึกษาระดับสูง พร้อมทั้งมีวิทยาเขตสำหรับการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา  ศูนย์พัฒนา และ 9 ศูนย์วิจัยต่างๆ อาคารของมหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอีตั้งอยู่ในกรุงเตหะราน แต่ไม่ได้ตั้งอยู่ในที่เดียวกัน อาคารเหล่านี้กระจายอยู่ในพื้นที่กลางและตอนเหนือของกรุงเตหะราน โดยวิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเตหะรานที่หมู่บ้านโอลิมปิก
นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเรียนใน 226 สาขาวิชาและสาขาย่อยในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และเอก ในระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยเปิดดำเนินการมาแล้ว มีนักศึกษามากกว่า 77,000 คนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนี้ และในปัจจุบันมีนักศึกษามากกว่า 15,000 คนต่อปีที่กำลังศึกษาที่นี่

สถาบันการศึกษาระดับสูงด้านประกันภัย ECO
ในปี 1969 โรงเรียนระดับสูงด้านประกันภัย กรุงเตหะรานได้ก่อตั้งขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อเน้นความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการประกันภัยในโลกในขณะนั้น สถาบันนี้ถูกจัดตั้งขึ้นในรูปแบบสถาบันที่ไม่แสวงหากำไร และเริ่มรับนักศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านการจัดการการประกันภัยตั้งแต่ปี 1970 ตั้งแต่เริ่มแรก สถาบันนี้มีสองแผนก ได้แก่ แผนกภาษาเปอร์เซียและแผนกภาษาอังกฤษ ซึ่งแผนกภาษาอังกฤษมีการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การความร่วมมือภูมิภาคเพื่อการพัฒนา (RCD) มหาวิทยาลัยการาจีในปากีสถาน มหาวิทยาลัยอิสตันบูล และสถาบันประกันภัยเช่าร์เตอร์ในลอนดอน รวมถึงโรงเรียนประกันภัยในนิวยอร์ก ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษานี้
ในปี 1985 หลังจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ RCD และการก่อตั้งองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ECO ความสำคัญของการมีสถาบันการศึกษาระดับสูงที่มุ่งเน้นการประกันภัยก็ได้รับการยอมรับ ดังนั้นในปี 1990 ชื่อของโรงเรียนประกันภัยระหว่างประเทศจึงถูกเปลี่ยนเป็น "สถาบันการศึกษาระดับสูงด้านการประกันภัย ECO" และสถาบันนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอี ตั้งแต่เดือนกันยายน 1991 สถาบันนี้ก็เริ่มรับนักศึกษา

วิทยาเขตการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาแบบอิสระของมหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอี
ตั้งแต่ปี 1991 มีการก่อตั้งศูนย์การศึกษาในชื่อ "การศึกษาเฉพาะทางแบบอิสระ" ในมหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอีศูนย์นี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วิทยาเขตการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา" ในปี 2012 ปัจจุบันวิทยาเขตนี้มี 12 กลุ่มวิชาที่เปิดสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก โดยมีนักศึกษาประมาณสองพันคน

ศูนย์การศึกษาภาษาเปอร์เซียสำหรับผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาเปอร์เซีย
สถานะของมหาวิทยาลัยอัลลามะห์ ตะบาตะบาอีในหมู่มหาวิทยาลัยในอิหร่านและการมีนักศึกษาต่างชาติ ทำให้มีการก่อตั้งศูนย์การศึกษาภาษาเปอร์เซียสำหรับผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาเปอร์เซีย ตั้งแต่การก่อตั้งศูนย์ในปี 2017 ได้ให้การศึกษาแก่นักศึกษาจากหลายประเทศ โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมเรียนภาษาเปอร์เซียสามารถเรียนรู้ผ่านการเรียนการสอนแบบในชั้นเรียนหรือผ่านช่องทางออนไลน์ ศูนย์นี้ยังมีการสอนภาษาเปอร์เซียที่เน้นการใช้งานในด้านวรรณกรรม  การสื่อสารมวลชน การค้า และการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นจุดเด่นของศูนย์นี้