โรงเรียนอุดมศึกษาชะฮีดมุตอฮารีย์ โรงเรียนแห่งใหม่ใจกลางอาคารก่อสร้างแบบดั้งเดิม
“การอุทิศ” เป็นประเพณีทางศาสนาอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนศูนย์วิชาการและมหาวิทยาลัยทั้งในอิหร่านและประเทศต่างๆในยุโรป โรงเรียนอุดมศึกษา ชะฮีดมุตอฮารีย์ ซึ่งปัจจุบันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “มหาวิทยาลัย ชะฮีดมุตอฮารีย์” ถือเป็นโรงเรียนอุดมศึกษา ที่ใหญ่ที่สุดในเตหะราน ซึ่งเปิดดำเนินการมานานกว่า 100 ปี
ชะฮีดมุตอฮารีย์ คือใคร?
มุรตะฎอ มุตอฮารีย์ เป็นนักการศาสนาชีอะฮ์ เป็นศาสตราจารย์ด้านปรัชญาและเทววิทยาอิสลาม นักตัฟซีร และ นักปราศรัยชาวอิหร่าน เขาเกิดในปี ค.ศ. 1919 และก่อนการปฏิวัติ เขาสอนหนังสือที่คณะเทววิทยาของมหาวิทยาลัยเตหะราน เขามีบทบาทในการต่อสู้จนนำไปสู่ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม ในที่สุด มุตอฮารีย์ถูกลอบสังหารในปี ค.ศ. 1979 หลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามไม่กี่เดือน
ประวัติความเป็นมาของโรงเรียนอุดมศึกษาชะฮีดมุตอฮารีย์
การก่อสร้างอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนอุดมศึกษาชะฮีดมุตอฮารีย์ เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1878 เมื่อบุคคลชื่อ มีรซา ฮูเซนคาน เซพะห์ร ซอลาร์ ก่อตั้งอาคารแห่งนี้ขึ้นเป็นอาคารอุทิศโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโรงเรียนสอนศาสนาซึ่งใช้ศาสตร์ใหม่ๆ ในการสร้างด้วย การก่อสร้างอาคารเรียนใช้เวลาสี่ปี และในที่สุดกิจกรรมทางวิชาการก็เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1891
โรงเรียนอุดมศึกษาและมัสยิดเซพะห์ร ซอลาร์ตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองเตหะรานในสมัยนั้น และในช่วงเวลาที่มีการก่อสร้าง มัสยิดและโรงเรียนอุดมศึกษาแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ในบริเวณที่เข้าถึงได้สะดวกมาก โรงเรียนแห่งนี้ยังคงถือเป็นมัสยิดและโรงเรียนอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ในการก่อสร้างมัสยิดและโรงเรียนอุดมศึกษาแห่งนี้ก็ได้ยึดหลักการสถาปัตยกรรมอิหร่านแบบดั้งเดิมอย่างสมบูรณ์ จนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างสุดท้ายของผลงานชิ้นเอกด้านสถาปัตยกรรมอิหร่านแบบดั้งเดิม
อาคารมัสยิดและโรงเรียนอุดมศึกษา มีหออะซานสูงทั้งหมด 8 หอ สูง 37 ถึง 25 เมตร โครงสร้างทรงกลมครึ่งหนึ่งของฐานหออะซานเหล่านี้สามารถมองเห็นได้จากผนัง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจของนักออกแบบ อิฐถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างหออะซานทั้งหมด และคลุมไปด้วยกระเบื้องที่สวยงาม
อาคารนี้มีทางเข้า 6 ทาง โดยทางเข้าหลักอยู่ทางทิศตะวันตกของอาคาร ลานตรงกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและมีเฉลียง 4 แห่ง ลานกลางมีความยาว 62 x 63 เมตร และระเบียงโดยรอบสูง 18 เมตร ลานนี้มีสวนขนาดใหญ่ 4 แห่งล้อมรอบ นอกจากนี้ อาคารหลังนี้ยังสร้างลานเล็กอีกแห่งซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาคาร
แม้ว่าห้องสมุดของโรงเรียนอุดมศึกษาชะฮีดมุตอฮารีย์จะได้รับการวางแผนตามแบบแปลนเดิมของอาคาร แต่ห้องสมุดแห่งนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในการก่อสร้างช่วงแรก ต่อมา สถาปนิกชาวฝรั่งเศส Maxime Siro ได้เพิ่มห้องสมุดแห่งนี้เข้าไปในกลุ่มอาคารโดยสอดคล้องกับอาคารเดิม
กิจกรรมการศึกษาในโรงเรียนมัธยมอุดมศึกษาชะฮีดมุตอฮารีย์
หลายปีนับแต่ก่อตั้ง คณะเทววิทยาและวิทยาเขตวิชาการอิสลามแห่งมหาวิทยาลัยเตหะรานก็เริ่มดำเนินงานในโรงเรียนแห่งนี้ในปี ค.ศ. 1932 ภายใต้ชื่อ วิทยาเขตมะอ์กูลและมันกูล
ในปี ค.ศ. 1969 ได้มีการตรากฎหมายที่กำหนดว่า ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอุดมศึกษาเซพะห์ร ซอลาร์ จะได้รับปริญญาตรีใน 2 สาขาวิชา คือ "วิชาการอัลกุรอานและนิติศาสตร์อิสลาม" และ "เทววิทยาและฮิกมัตอิสลาม"
หลังชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (ค.ศ. 1979) และการเป็นชะฮีดของอาจารย์มุตอฮารีย์ (ค.ศ. 1981) โรงเรียนแห่งนี้จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงเรียนอุดมศึกษาชะฮีดมุตอฮารีย์" ในปีเดียวกันนั้น นักเรียนชายและหญิงได้รับการคัดเลือกให้เข้าเรียนในสาขาวิชาการศาสนาและมาอาริฟอิสลาม ในปี ค.ศ. 1987 สาขา"นิติศาสตร์อิสลามและกฎหมาย" และ "ปรัชญาอิสลามและฮิกมัต" แทนที่สองสาขาเดิมทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ในปี ค.ศ. 1994 เริ่มรับนักศึกษาระดับปริญญาเอกในสาขา "นิติศาสตร์และกฎหมายเอกชน" "นิติศาสตร์และกฎหมายอาญา" "ปรัชญาเปรียบเทียบ" และ "เทววิทยาอิสลาม" หลังจากปี ค.ศ. 2010 โรงเรียนอุดมศึกษาแห่งนี้เปลี่ยนสถานะเป็น "มหาวิทยาลัย"
ในช่วงหลายปีที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ดำเนินกิจกรรม ได้มีการจัดตั้งหน่วยการศึกษาสามหน่วยขึ้นทั้งในเมืองมัชฮัด (ค.ศ. 1989) เมืองยัซด์ (สำหรับเด็กผู้หญิง) และซาเฮดาน (ค.ศ. 1997) ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้จัดกลุ่มการศึกษาสามกลุ่ม ได้แก่ "นิติศาสตร์และกฎหมาย" "ปรัชญาและเทววิทยา" และ "จิตวิทยา" วารสารวิชาการเฉพาะทางด้านนิติศาสตร์และกฎหมายเอกชนที่ตีพิมพ์ทุก ๆ สองปี และวารสาร(ปรัชญาและเทววิทยา) ที่ตีพิมพ์ทุก ๆ ไตรมาส เป็นวารสารวิชาการ2ฉบับของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งยังคงจัดพิมพ์วารสารที่ตีพิมพ์ทุก ๆ สองปีอยู่
โรงเรียนอุดมศึกษาชะฮีดมุตอฮารีย์ โรงเรียนแห่งใหม่ใจกลางอาคารก่อสร้างแบบดั้งเดิม | |
02133566166 | |
https://motahari.ac.ir/fa |