นักวิเคราะห์ซีเรียวิเคราะห์เนื้อหาสำคัญของสาส์นผู้นำการปฏิวัติถึงนักศึกษาชาวอเมริกันตอนที่3
นักวิเคราะห์ซีเรียวิเคราะห์เนื้อหาสำคัญของสาส์นผู้นำการปฏิวัติถึงนักศึกษาชาวอเมริกันตอนที่3
สาส์นผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติถึงประเทศในภูมิภาคและทั่วโลก
เห็นได้ชัดว่าอิมามคาเมเนอีส่งสาส์นสำคัญและคำเตือนไปยังประเทศในภูมิภาคที่สนับสนุนการก่อการร้ายไม่ว่าจะเป็นการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้พวกเขา นอกจากนี้เขายังส่งสาส์นไปยังประเทศใหญ่ๆ ที่ลงทุนในการก่อการร้าย และใช้สาส์นนั้นเพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงผลประโยชน์และเป้าหมายของตัวเองในภูมิภาค
คำกล่าวของผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านรวมถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและเฉพาะสำหรับจุดยืนการต่อสู้ในการเผชิญกับการก่อการร้าย และเป็นคำตอบที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่ทำให้การก่อการร้ายเกิดขึ้นตามการคำนวณที่ผิดและเป็นภาพลวงตา (ผู้ที่กล่าวหากลุ่มนักต่อสู้ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ในขณะที่ผู้ก่อการร้ายตัวจริงคือระบอบไซออนิสต์และผู้สนับสนุนเขา)
แต่เกี่ยวกับเนื้อหาของสาส์นของอิมามคาเมเนอีถึงนักศึกษาชาวอเมริกัน เราต้องบอกประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และพันธมิตรของเขาว่า สาส์นของผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน คือโลกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกายังไม่ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนในการทำให้ต้นตอของการก่อการร้ายหมดไป และข้อพิสูจน์ของการกล่าวอ้างนี้คือมีประเทศที่ให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงในทุกรูปแบบ อิมามคาเมเนอียังได้เปิดโปงบทบาทของประเทศที่ฝึกอบรมและจัดหาเงินทุนและอาวุธให้แก่ผู้ก่อการร้ายชาวอิสราเอล นอกจากนี้ยังได้เปิดโปงประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายอีกด้วย
ในสาส์นนี้ได้ระบุไว้ว่า ความรู้สึกของอิมามคาเมเนอี คือในยุโรป ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์กำลังเพิ่มขึ้น และผู้สนับสนุนอิสราเอลกำลังลดลง ซึ่งมีหลายเหตุผลด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ความแน่วแน่ของชาวปาเลสไตน์ในดินแดนของตน การการรุกรานอย่างต่อเนื่องของไซออนิสต์ต่อชาวปาเลสไตน์ การเปิดเผยบทบาทของสถาบันและการประชุมชาวปาเลสไตน์ในยุโรป จึงทำให้ปาเลสไตน์มีเอกอัครราชทูตอย่างเป็นทางการ
ความสำเร็จจากการเดินขบวนต่อต้านไซออนิสต์ในอเมริกา
ในทางกลับกัน การเดินขบวนต่อต้านไซออนิสต์ได้เพิ่มแรงกดดันทางการเมืองต่อประธานาธิบดีอเมริกาและในขณะเดียวกันก็สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อภาพลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ในทางกลับกัน นอกจากความเสียหายที่เกิดจากความรุนแรงของตำรวจต่อผู้ประท้วงแล้ว การประท้วงเหล่านี้ยังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา ซึ่งยากต่อการประมาณได้
แต่ในทางกลับกัน เราต้องชี้ให้เห็นหลายประเด็นในการประท้วงต่อต้านไซออนิสต์ในอเมริกา เนื่องจากการประท้วงเหล่านี้เป็นบทบาทสำคัญในการปลุกผู้คนในโลกให้ตื่นรู้ถึงความทุกข์ทรมานของประชาชาติของปาเลสไตน์และการสังหารพลเรือนที่ไม่มีที่พึ่งในปาเลสไตน์โดยไซออนิสต์
การประท้วงเหล่านี้ช่วยสร้างจิตวิญญาณแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวโดยความร่วมมือระหว่างนักศึกษาและอาจารย์ของพวกเขา การประท้วงเหล่านี้ ถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ชัดเจนและเป็นการเรียกร้องให้ทั่วโลกตื่นตัว เพราะชาวอเมริกันไม่กลัวการตอบโต้ของตำรวจหรือทหารของรัฐบาลอเมริกาต่อการประท้วงนี้อีกต่อไป
เป็นผลให้สถานการณ์เช่นนี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อระบอบไซออนิสต์ เพราะระบอบไซออนิสต์กลัวที่จะสูญเสียการสนับสนุนจากอเมริกาหลังจากที่การประท้วงนี้ มวลชนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังจากที่นักศึกษาชาวอเมริกันให้คำมั่นจนกว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดเผยจำนวนเงินลงทุนที่อาจมีส่วนสนับสนุนการทำสงครามกับฉนวนกาซา และหากไม่ถอยออกมา พวกเขาก็จะประท้วงต่อไป และนักศึกษาชาวอเมริกันก็ขู่ว่าจะประท้วงต่อไปจนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยในอเมริกาและอิสราเอลจะถูกตัดขาดกัน
ในที่นี้ เราต้องมองไปที่ข้อเท็จจริงที่ว่าการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อระบอบการปกครองของอิสราเอลคือสิ่งที่ทำให้ระบอบการปกครองนี้สามารถละเมิดต่อโลก ไม่ว่าจะเป็น สหประชาชาติ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และความคิดเห็นของประชาชนทั่วโลก ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่อิสราเอลรู้เป็นอย่างดี
โดยทั่วไป เนื้อหาในสาส์นของอิมามคาเมเนอีที่ส่งถึงนักศึกษาชาวอเมริกันนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แน่วแน่และน้ำหนึ่งใจเดียวด้วยกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่ชาวปาเลสไตน์ได้ทำเพื่อปลดปล่อยดินแดนของตนจากผู้รุกราน เนื้อหาในสาส์นนี้ยังเน้นถึงพลังของชาวปาเลสไตน์ในการเอาชนะความยากลำบากทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ ชาวปาเลสไตน์จึงสามารถเผชิญกับแผนสมรู้ร่วมคิดของอิสราเอลกับชาติตะวันตกทั้งหมดได้ และด้วยกับเอกภาพภายใน ความตั้งใจ และความมุ่งมั่นในการต่อสู้ จึงไม่มีกองกำลังหรือการก่อการร้ายใดๆสามารถเอาชนะชาวปาเลสไตน์ได้และพวกเขาก็จะเอาชนะแผนการของศัตรูได้