ศูนย์วัฒนธรรมสถานทูตอิหร่าน
สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี

สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี

สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี
เชคศอฟียุดดีน อารดะบิลี หนึ่งในอาริฟ (ผู้ขัดเกลาจิตวิญญาณสู่พระเจ้า) และนักกวีชาวอิหร่าน สถานที่ฝังศพของเขาเป็นอารามที่ใหญ่ที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และโดดเด่นที่สุด สร้างขึ้นโดยการใช้สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของอิหร่าน (ช่วงสมัยจักรวรรดิข่านอิลและราชวงศ์ตีมูร์) และแรงบันดาลใจจากความเชื่อศูฟี
สถาปัตยกรรมนี้ถูกบันทึกไว้ในรายการมรดกโลกของยูเนสโกในปี 2010 สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี ผู้เป็นบรรพบุรุษสุลต่านแห่งราชวงศ์ศอฟะวี ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1352 โดยลูกหลานของเขาชื่อ ศ็อดรุดดีน มูซา หลักจากการปกครองของราชวงศ์ศอฟะวียะห์ได้เริ่มขึ้น ได้มีการต่อเติมส่วนต่างๆ ไปยังตัวอาคารนี้ด้วยชิ้นงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแขนงต่างๆ
โครงสร้างดั้งเดิมของโดม อัลเลาะห์อัลเลาะห์ เป็นอาคารแปดเหลี่ยมมีโดมสีเขียวขุ่น ซึ่งพระนามของอัลเลาะห์ถูกจารึกไว้บนโดมมากมาย และหลุมฝังศพของเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี อยู่ภายใต้โดมนี้ ในสถานที่นี้ยังมีหลุมศพชาห์อิสมาอิลที่ 1 (กษัตริย์องค์แรกแห่งราชวงศ์ศอฟะวียะห์) ภริยากษัตริย์อิสมาอีล (มารดาชาห์ทาห์มาสพ์) บางส่วนจากคนเฒ่าคนแก่และผู้มีตำแหน่งในสมัยศอฟะวี และผู้เสียชีวิตจากสงครามชาลดุรอน อยู่ด้วย
และยังมีส่วนอื่นๆ อีก เช่น มัสยิดญันนะสะรอ , ห้องกันดีล , ห้องจีน , ห้องชัลเละ , ห้องปรุงน้ำหวาน , ห้องชะฮีด , ห้องอรัม และห้องชาห์เนชีน เป็นต้น
นอกเหนือจากนี้ยังมีห้องหนังสือ มัสยิด โรงเรียน โรงพยาบาล ห้องครัว ห้องทำขนมปัง และออฟฟิสต่างๆ ถูกสร้างไว้ในสถานที่นี้เช่นกัน หนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของสถาปัตยกรรมนี้คือ การรวบรวมงานศิลปะและการตกแต่งทางสถาปัตยกรรมอิหร่านในด้านต่างๆ ไว้ด้วยกัน เช่น งานกระเบื้องโมเสค งานซุ้มโค้งแบบรังผึ่ง งานสลักปูนพลาสเตอร์ประณีต งานเขียนอักษรของนักประดิษฐ์ตัวอักษรยุคศอฟะวี งานแกะสลักต่างๆ งานเครื่องเงิน งานปิดทอง งานจิตรกรรม เป็นต้น สถานที่นี้มีสี่ลานด้วยกันคือ ลานสวนหย่อม ลานใหญ่ (รอบๆ ลานจะมีอาคารต่างๆ ล้อมอยู่) ลานเล็ก (อยู่ระหว่างลานสวนหย่อมกับลานใหญ่) และลานทิศใต้หรือลานชะฮีด
สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี
2
สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี

สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี

สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี

เชคศอฟียุดดีน อารดะบิลี หนึ่งในอาริฟ (ผู้ขัดเกลาจิตวิญญาณสู่พระเจ้า) และนักกวีชาวอิหร่าน สถานที่ฝังศพของเขาเป็นอารามที่ใหญ่ที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และโดดเด่นที่สุด สร้างขึ้นโดยการใช้สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของอิหร่าน (ช่วงสมัยจักรวรรดิข่านอิลและราชวงศ์ตีมูร์) และแรงบันดาลใจจากความเชื่อศูฟี  สถาปัตยกรรมนี้ถูกบันทึกไว้ในรายการมรดกโลกของยูเนสโกในปี 2010 สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี ผู้เป็นบรรพบุรุษสุลต่านแห่งราชวงศ์ศอฟะวี ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1352 โดยลูกหลานของเขาชื่อ ศ็อดรุดดีน มูซา หลักจากการปกครองของราชวงศ์ศอฟะวียะห์ได้เริ่มขึ้น ได้มีการต่อเติมส่วนต่างๆ ไปยังตัวอาคารนี้ด้วยชิ้นงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแขนงต่างๆ   โครงสร้างดั้งเดิมของโดม อัลเลาะห์อัลเลาะห์ เป็นอาคารแปดเหลี่ยมมีโดมสีเขียวขุ่น ซึ่งพระนามของอัลเลาะห์ถูกจารึกไว้บนโดมมากมาย และหลุมฝังศพของเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี อยู่ภายใต้โดมนี้ ในสถานที่นี้ยังมีหลุมศพชาห์อิสมาอิลที่ 1 (กษัตริย์องค์แรกแห่งราชวงศ์ศอฟะวียะห์) ภริยากษัตริย์อิสมาอีล (มารดาชาห์ทาห์มาสพ์) บางส่วนจากคนเฒ่าคนแก่และผู้มีตำแหน่งในสมัยศอฟะวี และผู้เสียชีวิตจากสงครามชาลดุรอน อยู่ด้วย และยังมีส่วนอื่นๆ อีก เช่น มัสยิดญันนะสะรอ , ห้องกันดีล , ห้องจีน , ห้องชัลเละ , ห้องปรุงน้ำหวาน , ห้องชะฮีด , ห้องอรัม และห้องชาห์เนชีน เป็นต้น นอกเหนือจากนี้ยังมีห้องหนังสือ มัสยิด โรงเรียน โรงพยาบาล ห้องครัว ห้องทำขนมปัง และออฟฟิสต่างๆ ถูกสร้างไว้ในสถานที่นี้เช่นกัน หนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของสถาปัตยกรรมนี้คือ การรวบรวมงานศิลปะและการตกแต่งทางสถาปัตยกรรมอิหร่านในด้านต่างๆ ไว้ด้วยกัน เช่น งานกระเบื้องโมเสค งานซุ้มโค้งแบบรังผึ่ง งานสลักปูนพลาสเตอร์ประณีต งานเขียนอักษรของนักประดิษฐ์ตัวอักษรยุคศอฟะวี งานแกะสลักต่างๆ งานเครื่องเงิน งานปิดทอง งานจิตรกรรม เป็นต้น สถานที่นี้มีสี่ลานด้วยกันคือ ลานสวนหย่อม ลานใหญ่ (รอบๆ ลานจะมีอาคารต่างๆ ล้อมอยู่) ลานเล็ก (อยู่ระหว่างลานสวนหย่อมกับลานใหญ่) และลานทิศใต้หรือลานชะฮีด

สถานที่ฝังศพเชค ศอฟียุดดีน อารดะบีลี

องค์กรวัฒนธรรมและการสื่อสารอิสลามเป็นหนึ่งในองค์กรของอิหร่านที่สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมและแนวทางอิสลาม และก่อตั้งขึ้นในปี 2538[ดูเพิ่มเติม]

:

:

:

: