ศิลปะสไตล์อิหร่านดั้งเดิม บทที่ 6 ลวดลายชัมเซะห์
ในบทก่อนหน้านี้เราได้กล่าวถึงคุณลักษณะต่าง ๆ ของศิลปะอิหร่านดั้งเดิม โดยเกิดขึ้นตามความต้องการทางโลกทัศน์และความเชื่อทางวัฒนธรรมอิสลามและอิหร่าน ดังนั้นรูปแบบและลวดลายอันหลากหลายที่พบเห็นในศิลปะอิหร่านดั้งเดิมประเภทต่าง ๆ นอกเหนือจากความงดงามทางกายภาพแล้วยังมีมุมมองทางจิตวิญญาณอันเกี่ยวกับความต้องการทางภูมิปัญญาอิหร่านและอิสลามในชิ้นงานนั้น ๆ อยู่ด้วย
ในบทนี้จะนำเสนอถึงลวดลายยอดนิยมในการออกแบบสไตล์อิหร่านดั้งเดิมนั่นคือ “ลวดลายชัมเซะห์” (ลวดลายดวงอาทิตย์) ซึ่งรูปแบบหลักของดวงอาทิตย์นั้นคือวงกลมวงหนึ่งที่มีจุดรัศมีอยู่ตรงกึ่งกลาง โดยวงกลมนี้จะถูกแบ่งเนื้อที่เท่า ๆ กันจากจุดศูนย์กลาง และด้านในของวงกลมมีการวาดลวดลายและการลงสีที่สวยงามด้วยกฎการออกแบบที่พิเศษสไตล์อิหร่านดั้งเดิม
ในการออกแบบชัมเซะห์ลำดับแรกคือการวาดวงกลมขึ้นมาแล้วแบ่งส่วนเล็ก ๆ จากจุดกึ่งกลางออกไปยังเส้นรอบวงเท่า ๆ กันออกเป็น 4 หรือ 8 หรือ 12 หรือ 16 ส่วน หลังจากนั้นก็ออกแบบส่วนเล็ก ๆ เหล่านี้ขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วนำไปสู่การออกแบบส่วนอื่น ๆ ที่แบ่งไว้ กระทั้งการออกแบบทุกส่วนของวงกลมเสร็จสมบูรณ์ จึงจะได้ชัมเซะห์ที่ดูคล้ายกับดวงอาทิตย์หนึ่งรูป
ความหมายของลวดลายอันนี้อาจจะซับซ้อนเล็กน้อย โดยเป็นที่ทราบกันว่าการวาดรูปวงกลมนั้นจะต้องกำหนดจุดศูนย์กลางก่อนเป็นลำดับแรกและสมมติขนาดของวงกลม จากนั้นลากเส้นรอบวงที่กำลังหมุนรอบจุดศูนย์กลางของวงกลมนั้นเพื่อให้ได้ขนาดและสัดส่วนที่เท่ากัน เมื่อจุดเริ่มต้นของเส้นรอบวงถูกวาดมาบรรจบกันก็จะได้วงกลมที่สมบูรณ์ และการถอดความหมายของลวดลายที่สวยงามก็เริ่มจากจุดศูนย์กลางนี้ โดยถือว่ามันคือสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นของการสรรค์สร้างและการมีชีวิต ที่มีชื่อเรียกว่า หนึ่ง เอกะ ต้นกำเนิดชีวิต หรือความลับที่ถูกซ่อน การจะรู้จักจุดศูนย์กลางอันนี้จำต้องอาศัยพิสัยหนึ่งเพื่อให้สามารถถอดรหัสถึงที่มาและแหล่งกำเนิดชีวิตหรือศิลปะในพื้นที่เฉพาะนี้ได้
พิสัยและพื้นที่เฉพาะที่ว่านั้นคือเนื้อที่ในวงกลมที่มุ่งสู่จุดศูนย์กลางแห่งความเป็นเอกะและมุ่งสู่รัศมีแห่งการเข้าใจและรับรู้ ซึ่งวงกลมนี้เป็นรูปทรงที่มีรัศมีอนันต์ที่สามารถเข้าใจได้โดยการเปรียบเทียบไปยังจำนวนของมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างมากมาย ดังนั้นความหมายที่ซ่อนอยู่นั้นคือ มนุษย์ทุกคนมีหนทางที่จะเรียนรู้และเข้าใจถึงความลับที่ซ่อนอยู่และจุดเริ่มต้นของสรรพสิ่งทั้งหลายโดยอาศัยแนวคิดจาก “ลวดลายชัมเซะห์” อันนี้ อีกประเด็นหนึ่งคือ เส้นต่าง ๆ เหล่านี้จะมาบรรจบที่จุดศูนย์กลางจุดเดียว โดยศิลปะอิสลามเรียกจุดนี้ว่า “เอกเทวนิยม” สามารถกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า พื้นที่ของวงกลมนั้นถูกประกอบขึ้นโดยจุดศูนย์กลางที่ไร้ขอบเขตซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตหรือความหลากหลายทางโลก
แต่เมื่อทุกสรรพสิ่งเคลื่อนไปสู่จุดเริ่มต้นและแหล่งกำเนิดเดียวกัน พวกมันก็จะเข้าใกล้กันมากขึ้นจนกระทั่งถึงจุดเดียวกันที่อยู่ตรงกลางวงกลม และนี่คือความหมายของ “เอกเทวนิยม” แท้จริงแล้วลวดลายชัมเซะห์บอกเราว่า หากความเข้าใจและการรับรู้ของมนุษย์เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ดั่งในพิสัยที่ถูกกำหนดไว้ในวงกลมซึ่งกำลังมุ่งสู่จุดศูนย์กลางและแหล่งกำเนิดของตน มันจะทำให้เกิดชีวิตที่งดงามและเป็นชีวิตที่มีความเป็นระบบระเบียบเฉกเช่นดวงอาทิตย์ที่ทอแสงเพื่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ นั้นเอง
โดยปกติลวดลายชัมเซะห์ที่ออกแบบมาสำหรับคัมภีร์อัลกุรอานจะเว้นพื้นที่ตรงกลางเอาไว้เพื่อใช้เขียนพระนามของพระเจ้า หรือในหน้าแรกของหนังสือจะมีคำขึ้นต้นว่า “บิสมิลลาฮ์...” (بسمالله الرحمن الرحیم) ซึ่งเรียกรูปแบบนี้ว่า “ชัมเซะห์บิสมิลลาฮ์” ดั่งตัวอย่างของลวดลายนี้ในศิลปะอิหร่านดั้งเดิม เช่น ลายกระเบื้อง ลายพรม ลายการตกแต่งคัมภีร์อัลกรุอานและหนังสือกวีของอิหร่าน ลายมีนอกอรี (meenakari) ลายคอตัมกอรี (Khatam) และอื่น ๆ เป็นต้น +
ขอขอบคุณในการติดตามผลงานของเรา โดยท่านสามารถแชร์และเขียนความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจหรือติชมในชิ้นงานของเราได้ + เนื้อหาและบทความเป็นของ ศูนย์วัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ประจำกรุงเทพฯ หากมีการคัดลอกเนื้อหาขอความกรุณาใส่เครดิตด้วยนะครับ ขอขอบคุณครับ
ศิลปะสไตล์อิหร่านดั้งเดิม บทที่ 6 ลวดลายชัมเซะห์ | |