ศูนย์วัฒนธรรมสถานทูตอิหร่าน
มัสยิดอะตีก มัสยิดกลางแห่งเมืองอิสฟาฮาน

มัสยิดอะตีก มัสยิดกลางแห่งเมืองอิสฟาฮาน

มัสยิดอะตีก มัสยิดกลางแห่งเมืองอิสฟาฮาน
มัสยิดกลางอิสฟาฮานมีความสำคัญทางเทคนิคและศิลปะอย่างมาก โดยมีการเอาลักษณะเฉพาะของยุคประวัติศาสตร์อิสลามที่แตกต่างกันรวมเข้าไว้ด้วยกัน เป็นอาคารที่สำคัญทางศาสนาและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในอิหร่านที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มัสยิดแห่งนี้เป็นหนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม ซึ่งตัวอาคารหลักถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษของอิสลามบนอาคารโบราณเดิมก่อนช่วงอิสลามในสมัยปลายยุคซาซานี ลักษณะของมัสยิดในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นไปตามการสร้างในสมัยราชวงศ์เซลจุค แต่แปลนและแบบที่สำคัญที่สุดในการพัฒนามัสยิดนี้เกิดขึ้นในยุคราชวงศ์บูยะฮ์และซาฟาวิด
มัสยิดกลางอิสฟาฮานได้สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะแบบไบแซนไทน์ (ไบแซนไทน์เป็นเมืองหลวงของโรมซึ่งเป็นที่ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม) และแบบคลาสสิกในรูปของอาคารดั้งเดิมและอิสลาม ตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยความงดงามที่น่าค้นหาโดยมีซุ้มโค้งสี่ด้าน มัสยิดแห่งนี้มีสิ่งปลูกสร้างที่แสดงให้เห็นถึงศิลปะหลายชิ้น เช่น ลานกว้างที่มีประตูซุ้มโค้งสี่ด้าน, โรงเรียนโมซาฟารี, ห้องเล็ก ๆ หลายห้อง โดยห้องเหล่นี้มีโดมชื่อว่า เนซอมอัลมุลก์และโดมตอจอัลมุลก์ , เมี๊ยะรอบ (สถานที่ละหมาดของอิมาม) มีชื่อว่า “อัลญัยตู” (เป็นเมี๊ยะรอบที่สวยที่สุด) , แท่นธรรมาสน์ และอีวาน 4 ด้าน (ซุ้มโค้ง 4 ด้าน) ที่มีชื่อว่า ศอฮิบ อุสตาด ชอเกร และดัรวิช โดยที่รอบ ๆ ของมันได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งแต่ละชิ้นงานเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมในช่วงเวลาที่เฉพาะเอาไว้
มัสยิดแห่งนี้มีประตูทางเข้าหลายด้าน ซึ่งแต่ละประตูจะเชื่อมกับพื้นที่บริเวณของมัสยิดโดยรอบทั้งหมด ในบรรดาองค์ประกอบทางศิลปะของมัสยิดแห่งนี้ นอกจากรูปแบบทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่แตกต่างกันแล้ว ก็ยังมีคำจารึกต่าง ๆ ที่เป็นภาษาเปอร์เซียและภาษาอาหรับประดับไว้ด้วย
มัสยิดอะตีก มัสยิดกลางแห่งเมืองอิสฟาฮาน
2
มัสยิดอะตีก มัสยิดกลางแห่งเมืองอิสฟาฮาน

มัสยิดอะตีก มัสยิดกลางแห่งเมืองอิสฟาฮาน

มัสยิดอะตีก มัสยิดกลางแห่งเมืองอิสฟาฮาน

มัสยิดกลางอิสฟาฮานมีความสำคัญทางเทคนิคและศิลปะอย่างมาก โดยมีการเอาลักษณะเฉพาะของยุคประวัติศาสตร์อิสลามที่แตกต่างกันรวมเข้าไว้ด้วยกัน เป็นอาคารที่สำคัญทางศาสนาและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในอิหร่านที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มัสยิดแห่งนี้เป็นหนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอิสลาม ซึ่งตัวอาคารหลักถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษของอิสลามบนอาคารโบราณเดิมก่อนช่วงอิสลามในสมัยปลายยุคซาซานี ลักษณะของมัสยิดในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นไปตามการสร้างในสมัยราชวงศ์เซลจุค แต่แปลนและแบบที่สำคัญที่สุดในการพัฒนามัสยิดนี้เกิดขึ้นในยุคราชวงศ์บูยะฮ์และซาฟาวิด   มัสยิดกลางอิสฟาฮานได้สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะแบบไบแซนไทน์ (ไบแซนไทน์เป็นเมืองหลวงของโรมซึ่งเป็นที่ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม) และแบบคลาสสิกในรูปของอาคารดั้งเดิมและอิสลาม ตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยความงดงามที่น่าค้นหาโดยมีซุ้มโค้งสี่ด้าน มัสยิดแห่งนี้มีสิ่งปลูกสร้างที่แสดงให้เห็นถึงศิลปะหลายชิ้น เช่น ลานกว้างที่มีประตูซุ้มโค้งสี่ด้าน, โรงเรียนโมซาฟารี, ห้องเล็ก ๆ หลายห้อง โดยห้องเหล่นี้มีโดมชื่อว่า เนซอมอัลมุลก์และโดมตอจอัลมุลก์ , เมี๊ยะรอบ (สถานที่ละหมาดของอิมาม) มีชื่อว่า “อัลญัยตู” (เป็นเมี๊ยะรอบที่สวยที่สุด) , แท่นธรรมาสน์  และอีวาน 4 ด้าน (ซุ้มโค้ง 4 ด้าน) ที่มีชื่อว่า ศอฮิบ อุสตาด ชอเกร และดัรวิช  โดยที่รอบ ๆ ของมันได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม  ซึ่งแต่ละชิ้นงานเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมในช่วงเวลาที่เฉพาะเอาไว้ มัสยิดแห่งนี้มีประตูทางเข้าหลายด้าน ซึ่งแต่ละประตูจะเชื่อมกับพื้นที่บริเวณของมัสยิดโดยรอบทั้งหมด ในบรรดาองค์ประกอบทางศิลปะของมัสยิดแห่งนี้ นอกจากรูปแบบทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่แตกต่างกันแล้ว ก็ยังมีคำจารึกต่าง ๆ ที่เป็นภาษาเปอร์เซียและภาษาอาหรับประดับไว้ด้วย

มัสยิดอะตีก มัสยิดกลางแห่งเมืองอิสฟาฮาน

องค์กรวัฒนธรรมและการสื่อสารอิสลามเป็นหนึ่งในองค์กรของอิหร่านที่สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมและแนวทางอิสลาม และก่อตั้งขึ้นในปี 2538[ดูเพิ่มเติม]

:

:

:

: