ศูนย์วัฒนธรรมสถานทูตอิหร่าน
โดมซุลตอนีเยะห์

โดมซุลตอนีเยะห์

โดมซุลตอนีเยะห์
โดมซุลตอนีเยะห์ เป็นโดมอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของสุลต่านมุฮัมหมัด โคดอบันเดะห์ (Uljeitu) ในปี ค.ศ. ที่ 1302 ถึง 1312 ณ เมืองหลวงอิลข่าน (จักรวรรดิข่านอิล) ของเมืองซุลตอนีเยะห์ สุสานนี้เป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมอิหร่านและอิสลาม และเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของสถาปัตยกรรมในยุคจักรวรรดิเซลจุคถึงสถาปัตยกรรมยุคจักรวรรดิข่านอิลได้อย่างชัดเจน และอิฐเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการสร้างงานชิ้นนี้
แปลนอาคารชั้นล่างและชั้นหนึ่งจะมีพื้นที่ว่างบริเวณรอบโดมซึ่งเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ชั้นสองและสามของแปลนมีการออกแบบเป็นทรงแปดเหลี่ยมและโดมจะอยู่บนชั้นแปดเหลี่ยมนี้ โดยมีหออะซานแปดแห่งถูกสร้างไว้ที่มุมทั้งแปดด้านบนชั้นสาม (ดาดฟ้า) ของโดม ตัวอาคารมีแปดทางเข้า แปดซุ้มโค้ง แปดหออาซาน และมีพื้นที่สามส่วนคือ บริเวณใต้โดม บริเวณสุสาน และชั้นใต้ดิน ช่องรับแสงของโดมซุลตอนีเยะห์ถูกประยุกต์ใช้เป็นนาฬิกาแสงแดดเพื่อบอกเวลาในการปฏิบัติศาสนกิจ การทำโดมสองชั้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมโลกเกิดขึ้นกับโดมนี้
โดมอิฐซุลตอนีเยะห์ถือเป็นโดมที่มีความสูงเป็นอันดับสามของโลกหลังจากอาสนวิหารซันตามาเรียแห่งฟลอเรนซ์ และมัสยิดฮายาโซฟีอาแห่งอิสตันบูล ชั้นนอกของโดมเป็นแผ่นกระเบื้องและหินสีฟ้าในรูปแบบของงานโมเสก ด้วยกับที่โดมมีสองชั้นจึงมีการตกแต่งมากมาย เช่น งานประเภทกระเบื้อง งานจิตรกรรมยิปซั่ม งานก่ออิฐแบบตาข่าย งานตกแต่งด้วยหินและไม้ งานซุ้มโค้งยิปซั่มชั้นในของโดม (Muqarnas) และงานจารึกโองการอัลกรุอานและวัจนะศาสดา เป็นต้น
โดมซุลตอนีเยะห์
2
โดมซุลตอนีเยะห์

โดมซุลตอนีเยะห์

โดมซุลตอนีเยะห์
โดมซุลตอนีเยะห์ เป็นโดมอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งของสุลต่านมุฮัมหมัด โคดอบันเดะห์ (Uljeitu) ในปี ค.ศ. ที่ 1302 ถึง 1312 ณ เมืองหลวงอิลข่าน (จักรวรรดิข่านอิล) ของเมืองซุลตอนีเยะห์ สุสานนี้เป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมอิหร่านและอิสลาม และเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของสถาปัตยกรรมในยุคจักรวรรดิเซลจุคถึงสถาปัตยกรรมยุคจักรวรรดิข่านอิลได้อย่างชัดเจน และอิฐเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในการสร้างงานชิ้นนี้
แปลนอาคารชั้นล่างและชั้นหนึ่งจะมีพื้นที่ว่างบริเวณรอบโดมซึ่งเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ชั้นสองและสามของแปลนมีการออกแบบเป็นทรงแปดเหลี่ยมและโดมจะอยู่บนชั้นแปดเหลี่ยมนี้ โดยมีหออะซานแปดแห่งถูกสร้างไว้ที่มุมทั้งแปดด้านบนชั้นสาม (ดาดฟ้า) ของโดม ตัวอาคารมีแปดทางเข้า แปดซุ้มโค้ง แปดหออาซาน และมีพื้นที่สามส่วนคือ บริเวณใต้โดม บริเวณสุสาน และชั้นใต้ดิน ช่องรับแสงของโดมซุลตอนีเยะห์ถูกประยุกต์ใช้เป็นนาฬิกาแสงแดดเพื่อบอกเวลาในการปฏิบัติศาสนกิจ การทำโดมสองชั้นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมโลกเกิดขึ้นกับโดมนี้
โดมอิฐซุลตอนีเยะห์ถือเป็นโดมที่มีความสูงเป็นอันดับสามของโลกหลังจากอาสนวิหารซันตามาเรียแห่งฟลอเรนซ์ และมัสยิดฮายาโซฟีอาแห่งอิสตันบูล ชั้นนอกของโดมเป็นแผ่นกระเบื้องและหินสีฟ้าในรูปแบบของงานโมเสก ด้วยกับที่โดมมีสองชั้นจึงมีการตกแต่งมากมาย เช่น งานประเภทกระเบื้อง งานจิตรกรรมยิปซั่ม งานก่ออิฐแบบตาข่าย งานตกแต่งด้วยหินและไม้ งานซุ้มโค้งยิปซั่มชั้นในของโดม (Muqarnas) และงานจารึกโองการอัลกรุอานและวัจนะศาสดา เป็นต้น
โดมซุลตอนีเยะห์

องค์กรวัฒนธรรมและการสื่อสารอิสลามเป็นหนึ่งในองค์กรของอิหร่านที่สังกัดกระทรวงวัฒนธรรมและแนวทางอิสลาม และก่อตั้งขึ้นในปี 2538[ดูเพิ่มเติม]

:

:

:

: